ประวัติเคลย์ ทอมป์สัน

ประวัติเคลย์ ทอมป์สัน เป็นนักบาสเกตบอลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เขาเป็นแชมป์ NBA สี่สมัยและ NBA All-Star ห้าสมัย เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักยิงสามแต้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

ชื่อเต็ม : เคลย์ อเล็กซ์ซานเดอร์ ทอมป์สัน

วันเกิด : 8 กุมภาพันธ์ 1990

สถานที่เกิด : เมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่วนสูง : 198 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : ชูตติงการ์ด, สมอลฟอร์เวิร์ด

ทีมปัจจุบัน : โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

จุดเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักบาสเกตบอลตั้งแต่วัยเด็ก

เคลย์ ทอมป์สัน เป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวของนักกีฬาก็ว่าได้ แม่ของเขานั้นเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลในระดับวิทยาลัย ส่วนพ่อของเขานั้นก็เป็นนักกีฬา NBA ตั้งแต่ในปี 1978 เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงให้ความสนใจกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก หลังจากที่ครอบครัวย้ายไปยังรัฐโอเรกอน เขานั้นก็ได้เริ่มต้นฝึกฝน และพัฒนาฝีมือในการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล จนกระทั่งเขามีอายุได้ 14 ปีครอบครัวก็ย้ายมาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเจ้าตัวก็ยังคงเล่นกีฬาบาสเกตบอลอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2,008 เจ้าตัวนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อให้ติดทีมของ ALL AREA และเขานั้นยังได้ติดทีมที่ 3 อย่างออเรนจ์เคาน์ตี้ อีกด้วย ในช่วงเวลานั้นเจ้าตัวมีผลงานที่ค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว ด้วยการทำคะแนนเฉลี่ยกว่า 21 แต้มต่อเกม สามารถพาทีมคว้าชัยชนะในการแข่งขันดิวิชั่น 3 ของรัฐไปด้วยคะแนนถล่มทลายกว่า 30 ต่อ 5 กันเลยทีเดียว

และเจ้าตัวยังสามารถทำสถิติคว้าชัยไปด้วยคะแนน 3 แต้ม และพอยน์เตอร์อีก 7 ครั้ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้เล่นในดิวิชั่น 3 สเตจในลีกทันที เป็น MVP ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฝั่งตะวันตก และมันก็กลายเป็นการแจ้งเกิดเขาอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่ WASHINGTON STATE UNIVERSITY และได้เข้าร่วมกับทีมบาสเกตบอลในระดับมหาวิทยาลัย เขายังคงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับการเสนอชื่อให้ติดทีม PAC 10 ALL FRESHMAN TEAM หลังจากที่เริ่มฤดูกาลที่ 2 เจ้าตัวก็สามารถพาทีมเข้าสู่การแข่งขันอย่าง GREAT ALASKA SHOOTOUT CHAMPIONSHIP เป็นการแข่งขันที่เจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมากที่สุด แถมยังทำสถิติทำคะแนนไปกว่า 43 คะแนน ต่อเกมได้อีกต่างหาก

ก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล NBA

หลังจากที่ เคลย์ ทอมป์สันฝึกฝน และพัฒนาฝีมือจากการแข่งขันทั้งระดับมัธยมปลาย และมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดปี 2011 เจ้าตัวก็ได้รับการประกาศเป็นดราฟท์อันดับที่ 11 ของทีมโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในช่วงเวลานั้นหลายคนคาดการณ์ว่าทีมจะมีการแลกเปลี่ยนผู้เล่น แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้น จนเข้าสู่เดือนมีนาคมปี 2012 ในช่วงเวลานั้นผู้จัดการทั่วไปของทีม ได้ยกย่องว่าเขานั้นเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษในการยิง และยังมั่นใจอีกด้วยว่า เจ้าตัวจะสามารถพัฒนาทักษะจนกลายมาเป็นตัวป้องกันให้กับทีมคนใหม่ได้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นน่าเสียดายที่ NBA ไม่ได้เลือกเขาสำหรับการแข่งขัน NBA ALL STAR WEEKEND RISING STAR CHALLENGE แต่อย่างใด

แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าตัวก็ยังคงไม่ลดละความพยายามในการพัฒนาฝีมือในการแข่งขัน จนเขานั้นสามารถทำค่าเฉลี่ยได้ดีขึ้นทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคะแนนต่อเกม เปอร์เซ็นต์การยิง หรือแม้แต่การทำรีบาวน์เองก็ตาม เข้าสู่ปี 2014 เจ้าตัวก็ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวสำรองของทีม ALL NBA WESTERN CONFERENCE ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในอาชีพของเขาเลยทีเดียว ที่ได้รับการเสนอชื่อ หลังจากที่ทีมคว้าแชมป์ได้อย่างงดงาม เข้าสู่ปี 2015 เจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนทีมสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สมหวัง ถึงอย่างนั้นเข้าสู่ปี 2016 เจ้าตัวก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 และต่อเนื่องจนถึงในปี 2017 กันเลยทีเดียว

อาการบาดเจ็บรุมเร้าและการกลับมาผงาดอีกครั้ง

หลังจากปี 2017 เขาและทีมสามารถคว้าแชมป์การแข่งขัน NBA ได้สำเร็จอย่างน่าประทับใจ แต่พอเข้าสู่ปี 2019 ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะตกลงเซ็นสัญญากับทีมเดิมต่อไป เป็นระยะเวลาถึง 5 ปีโดยได้เงินเป็นจำนวนกว่า 190 ล้านดอลลาร์ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็มีอาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่ตลอดเวลา ทีมต้องประกาศข่าวร้ายว่าเขาจะไม่ได้ลงการแข่งขันทั้งหมดอีกในฤดูกาล 2020 จากอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รักษาตัว และกายภาพบำบัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เข้าสู่ปี 2022 เจ้าตัวก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ NBA สมัยที่ 4 ได้สำเร็จอย่างงดงาม

เกียรติประวัติ